เรียนปริญญาโทที่อังกฤษดีไหม ข้อดี ข้อเสีย เรียนต่ออังกฤษ
สำหรับน้องๆหลายๆคนที่ต้องการไปเรียนต่อปริญญาโท ที่อังกฤษ(ขอพูดรวมๆถึง ทั้ง UK เลยแล้วกัน) ก่อนอื่นเลยลองพิจารณาดูนะครับว่าเราอยากจะไปเรียนจริงรึเปล่า
ข้อดีของการเรียนปริญญาโทที่อังกฤษ
- ปริญญาโทส่วนใหญ่ใช้เวลา 1 ปี ซึ่งน่าจะเป็นจุดดีสำหรับน้องๆที่อยากรีบเรียน รีบจบมาทำงาน โดยถ้าเทียบกับที่ ออสเตรเลีย หรือ อเมริกา ซึ่งปริญญาโทส่วนใหญ่จะใช้เวลาเรียน 1.5 ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับ สาขา และมหาวิทยาลัยที่จะไปเรียน
- คอร์สปริญญาโทที่อังกฤษถูกออกแบบให้เป็นวิชาเฉพาะทางมากๆ ยกตัวอย่างเช่น Marketing ถูกแตกออกเป็นหลายแขนงด้วยกัน เช่น MA Marketing and Communication, Strategic Marketing MSc, Consumer Marketing MSc, Marketing and Management MSc และอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งทำให้เราสามารถจะเลือกเรียนให้เหมาะกับสิ่งที่เราอยากจะทำเมื่อจบการศึกษามาแล้ว ตัวอย่างสาขาวิชาเฉพาะทางที่อังกฤษ
- เกณฑ์การรับเข้าก็เป็นอีกเรื่องนึงที่ทำให้การเรียนปริญญาโท ที่อังกฤษ เป็นที่นิยม เพราะว่าถึงเราจะได้เกรดไม่ดี หรือว่า IELTS ไม่ได้ตามเกณฑ์ที่มหาวิทยาลัยกำหนด ก็ยังอาจจะมีทางเข้าเรียนได้โดยผ่านทาง Program เสริมต่างๆ เช่น Pre-Sessional English, Pre-Master หรือว่า Graduate Diploma ซึ่ง ที่อังกฤษมีโปรแกรม เหล่านี้เยอะมาก แต่แน่นอนครรับว่าเค้าไม่ได้ให้เรียนฟรีๆ
- มาตรฐานทางการศึกษา อันนี้ไม่ขอพูดว่าประเทศอังกฤษมีมาตรฐานสูงกว่าประเทศอื่นๆนะครับ แต่ตั้งใจจะบอกว่าชื่อของมหาวิทยาลัยที่ประเทศอังกฤษ ถึงไม่ได้เป็น Top University แต่ว่าจะคุ้นหูของคนไทยอยู่แล้ว เช่น Coventry University, Portsmouth University, Plymouth University เป็นต้น
- นอกจากนั้นแล้วเรื่องค่าเรียนก็เป็นอีกจุดที่ทำให้นักเรียนนิยมที่จะไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษกัน เพราะ โปรแกรมปริญญาโทส่วนใหญ่ที่อังกฤษจะอยู่ประมาณ 10,000-12,000 GBP หรือ 500,000-600,000 บาท
ถ้าดูแต่ข้อดีอย่างเดียวก็ออกจะลำเอียงไปนิดนึงลองมาดู ข้อเสียของการเรียนปริญญาโท ที่อังกฤษ กันบ้างดีกว่า
- เรียนค่อนข้างเครียด เพราะว่าเค้าให้เรียนอัดมากๆๆๆๆ จะได้จบในปีเดียว ซึ่งถ้าเทียบกับที่ AUS หรือ US สามารถเลือกลงได้ว่าจะมากจะน้อยยังไง (แน่นอนครับว่าจริงๆแล้วเค้าก็มีบังคับอยู่บ้าง)
- นอกจากเรียน และสอบให้ผ่านแล้ว Program ส่วนใหญ่ในอังกฤษจะบังคับให้ที Dissertation ด้วย (มันคล้ายๆกับการทำ Thesis จบนะครับ แต่เล่มเล็กกว่า ประมาณ 15,000 word)
- ข้อเสียอีกอย่างนึงของอังกฤษคือเรื่องค่าครองชีพ โดยเฉพาะที่ London ซึ่งจะอยู่ที่ 1,000 GBP (50,000 บาท) ต่อเดือน แต่ว่าถ้าอยู่ที่ เมืองเล็กๆอื่นๆ ก็จะประมาณ 800 GBP (40,000 บาท)
มหาวิทยาลัยในประเทศอังกฤษ UK
- GPA 3.0 มีสิทธิ์
- Newcastle University
- University of Southampton
- Loughborough University
- University of Leicester
- University of East Anglia (UEA)
- City University
- University of Kent
- Birmingham University
- University of Dundee
- Heriot-Watt University
- Lancaster University
- University of Strathclyde
- University of Newcastle
- University of Exeter
- Royal Holloway, University of London
- Queen’s University Belfast
- Robert Gordon University
- Queen’s Marry
- University of the Arts London
- University of Reading
- University of Sheffield
- GPA 2.5-2.8 มีลุ้น
- Kingston University
- Plymouth University
- Bournemouth University
- Oxford Brookes University
- University of Stirling
- University of Essex
- University of Huddersfield
- Keele University
- University of Lincoln
- University of Chichester
- University of Brighton
- Brunel University
- University of Surrey
- University of Sussex
- Swansea University
- University of Portsmouth
- Birmingham City University
- Kingston University
- University of Manchester
- University of Liverpool
- Sheffield Hallam University
- University of Aberdeen
- Birkbeck University of London
- Queen University of Belfast
- GPA 2.2-2.4 ยังพอมีหวัง
- York St John University
- University of Sunderland
- Northumbria University
- Teesside University
- Coventry University
- University of Northampton
- Bath Spa University
- University of Greenwich
- Nottingham Trent University
- University of Central Lancashire
- Hertfordshire University
- Glasgow Caledonian
- Middlesex University
- University of Staffordshire
- Bangor University
- University of West London
- University of Bedfordshire
- London South Bank University
- University of Roehampton
- University of Westminster
- Anglia Ruskin University
294 Comments
พอดีอยากเรียนต่อโทFinanceที่อังกฤษ ดูไว้2มหาวิทยาลัย คือ Leeds Beckett University กับ University of Exeter จบบริการเกรด 2.20 ควรได้ IELTS เท่าไหร่ หรือควรใช้คะแนนอะไรเพิ่มเติมมั้ยคะ แล้วค่าเรียนและค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่คะ
สวัสดีครับน้อง Nammi
พี่ชื่อพี่กัสนะครับ พี่มาตอบคำถามของน้องเรื่องการไปเรียนโท Finance ที่อังกฤษ
พี่กัสขอตอบน้องเป็นข้อๆ นะครับ
1. ด้วยเกรดของน้อง Exeter ไม่น่าจะเข้าได้ครับ ทีนี้ Direct Entry เอาเกรด 2.9-3.2 และถ้า Pathway เอา 2.5
2. Leeds Beckett University เข้าตรงปกติรับเกรด 2.5 แต่ว่าเค้าไม่ค่อยเคี่ยวมาก แต่ถ้าไม่ได้ก็สามารถเช้า Pathway ได้
3. ราคา Direct Entry ของ Leeds Beckett อยู่ที่ 14,000 GBP ของ Exeter อยู่ที่ 24,200 GBP
4. ภาษาอังกฤษ อันนี้ LINE เข้ามาคุยดีกว่าครับ มันมี Pre-Sessional หลายตัว
Add LINE พี่กัสได้ที่ ID : Relaxgus
พี่กัสครับ
ตอนนี้ผมจบ Food Sci ของ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ครับ GPA 3.05 จะไปต่อ Msc Nutrition,Physical Activity and Public Health ของ University Of Bristol ได้ IELTS UKVI 6.5 พอจะเป็นไปได้ไหมครับ
สวัสดีครับน้อง Nin
พี่กัสจาก Thai Study UK นะครับ โปรแกรมนี่้ที่ ฺBristol University Second class เองครับ ดังนั้น Academic ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร นะครับ ส่วน English Req ก็ไม่น่าจะมีปัญหาเหมือนกัน
ตอนนี้น้องมีเอกสารอะไรอยู่แล้วบ้างครับ
พี่กัส
ตอนนี้เรียนวิศวะจุฬาค่ะ เกรด 3.3 ielts 7.5 อยากเรียน Msc Technology Entrepreneurship ที่ ucl พอเป็นไปได้มั๊ยคะ
สวัสดีค่า
เกรด 3.3 และ IELTS 7.5 น้องสามารถยื่นสมัคร คอร์ส Msc Technology Entrepreneurship ที่ ucl ได้สบายเลยค่ะ
น้องสามารถเข้าไปอ่าน entry requirement และหลักสูตรของเค้าได้ที่ http://www.ucl.ac.uk/prospective-students/graduate/taught/degrees/technology-entrepreneurship-msc
ถ้าน้องมีคำถามเพิ่มเติม หรือว่าต้องการสมัครเรียนสามารถติดต่อพี่พลอยได้ที่
เบอร์ 099-086-9553 หรือ Line id: ateducation1
พี่พลอย