น้องๆหลายคนที่ตั้งใจไปเรียนต่อปริญญาโทที่อังกฤษคงจะมีคำถามประมาณว่า เกรดอย่างเราจะเข้าได้ไหม มหาวิทยาลัยเค้าพิจารณายังไง วันนี้พี่กัสเลยเอาข้อมูลเรื่องนี้มาฝากครับ

โดยมากมหาวิทยาลัยจะกำหนดเกณฑ์การรับเข้าเป็น หลายๆปัจจัย แต่หลักๆจะมีอยู่ 2 ส่วน คือ

Academic Requirement ซึ่งก็คือ GPA ของเรานั้นเองซึ่งใน website ของมหาวิทยาลัยบางแห่งจะบอกมาเลยว่าสำหรับนักเรียนไทยจะต้องได้ GPA เท่าไหร่ถึงจะมีโอกาสเข้าได้ เช่นที่ University of Manchester เค้าจะบอกมาเลยว่ารับที่ GPA ต่ำสุด 2.8 ในขณะที่บางที่เช่น Newcastle University จะบอกเพียงกว้างๆว่า Upper Second Class Honor ซึ่งก็จะประมาณ GPA 3.0-3.2

ส่วน Academic Requirement นั้นสำคัญมากเพราะว่าถ้าไม่ผ่านแล้วต่อให้สอบภาษาอังกฤษได้มากๆเช่น IELTS  7.0 ก็เข้าไม่ได้อยู่ดี แต่อย่าพึ่งหมดหวังสำหรับน้องๆที่ได้เกรดน้อยๆ แต่อยากขอแก้ตัวใหม่ใน มหาวิทยาลัย Top Rank หรือว่าบางคนที่ขาดไปนิดหน่อยก็อย่าพึ่งหมดหวังครับลองสมัครดู เพราะเจอน้องหลายๆคนที่ไม่ถึงเกณฑ์เค้ากำหนดไว้ก็สามารถเข้าได้ แต่สำหรับน้องที่ GPA หายไปหลายช่วงตัวเลย ก็ยังพอมีหวังครับโดยการเรียนคอร์สปรับพื้นที่เราเรียกว่า คอร์สPre-Master หรือบางมหาวิทยาลัยที่อังกฤษอาจจะเรียกว่า Graduate Diploma

เกณฑ์การเข้าเรียนปริญญาโทของมหาวิทยาลัยในอังกฤษ

ส่วนที่สองคือ คะแนนสอบภาษา หรือที่เราเรียกว่า English Requirement เช่น IELTS หรือ TOEFL ซึ่งเราเรียกว่า English Requirement จะต้องสอบให้ได้มากหรือน้อยยังไงนอกจากจะขึ้นกับทางมหาวิทยาัลัยแล้ว ยังขึ้นอยู่กับคณะที่เราจะเรียนด้วย ยกตัวอย่างเช่น ถ้าน้องๆอยากเข้าเรียนที่ Bournemouth University โปรแกรม Master of Marketing จะต้องได้ IELTS Overall  ุ6.0 และแต่ละ Skill ไม่ต่ำกว่า 5.0 แต่ถ้าจะเ้ข้า MA Advertising and Marketing Communication จะต้องได้ IELTS 7.0 และแต่ละ skill ไม่ต่ำกว่า 6.5

ถ้าให้พูดกันตรงๆเด็กไทยที่สอบ IELTS ได้ขนาด 6.5 หรือ 7.0 เลยคงมีไม่มาก แต่ไม่ต้องเป็นห่วงครับเพราะว่ามหาวิทยาลัยส่วนใหญ่มี คอร์สปรับพื้นภาษาอังกฤษให้เราก่อนที่จะเริ่มเรียนซึ่งเราเรียกว่า Pre-Sessional English Program

ส่วนที่ สามคือส่วนประกอบอื่นๆ ซึ่งอาจจะเป็นประสบการณ์ทำงาน หรือว่ารางวัลผลงานต่างๆ ซึ่งตรงนี้อาจจะช่วยในส่วน GPA ได้ ในบางสาขาวิชาเช่น MBA จะมีการบังคับเลยว่า จะต้องมีประสบการณ์ทำงานอย่างน้อยกี่ปีถึงจะเข้าเรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยนั้นๆ ถึงจะสมัครเรียนได้ สำหรับของสถาปัตย์ ก็จะเป็นพวก Portfolio เป็นต้น ซึ่งถ้าส่วนนี้ดีๆ ก็จะช่วยในเรื่อง GPA ได้เหมือนกัน

 

Related posts

เรียนปริญญาโทที่ อังกฤษ ดีไหม ?

เรียนปริญญาโทที่ อังกฤษ ดีไหม ?

ปริญญาโทส่วนใหญ่ใช้เวลา 1 ปี ซึ่งน่าจะเป็นจุดดีสำหรับน้องๆที่อยากรีบเรียน รีบจบมาทำงาน โดยถ้าเทียบกับที่ ออสเตรเลีย หรือ อเมริกา ซึ่งปริญญาโทส่วนใหญ่จะใช้เวลาเรียน 1.5 ถึง 2 ปี ขึ้นอยู่กับ สาขา...

3 สาขาวิชาปริญญาโทที่ อังกฤษ เรียนสาขาอะไรดีนะ ?

3 สาขาวิชาปริญญาโทที่ อังกฤษ เรียนสาขาอะไรดีนะ ?

ความหลากหลายและความเฉพาะทาง เป็นจุดเด่นมากๆของการเรียนปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษ เพราะแต่ละสาขาวิชานั้นแตกออกเป็นปริญญาโทหลายโปรแกรมเลยทีเดียว และแต่ละโปรแกรมก็จะมีความพิเศษในคนละเรื่องกัน...

คอร์สปรับพื้นฐานของปริญญาโท (Pre Master or Graduate Diploma)

คอร์สปรับพื้นฐานของปริญญาโท (Pre Master or Graduate Diploma)

เพื่อทำให้น้องๆมีความพร้อมในการเรียนปริญญาโทมากขึ้น เนื่องจากปริญญาโทที่ประเทศอังกฤษนั้นสั้นมากใช่เวลาเพียง 1 ปี หรือ 2 เทอม ดังนั้นถ้าน้องไม่พร้อมตั้งแต่วันที่เริ่มเรียนโอกาสที่น้องจะได้เกรดดีๆคงจะน้อย...

เอกสารที่ใช้ในการสมัครเรียนปริญญาโทที่อังกฤษ

เอกสารที่ใช้ในการสมัครเรียนปริญญาโทที่อังกฤษ

เอกสารที่ใช้สมัครเรียน มีด้วยกัน 9 อย่าง คือ Transcript Graduation Certificate Copy of Passport IELTS (ยกเว้นกรณีพิเศษที่ได้รับการยกเว้น) Recommendation Letter 2 ฉบับ Statement of Purpose (SOP) Resume (CV) สำหรับน้องๆที่มีประสบการณ์ทำงานมาแล้ว...

Leave a Reply